พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [4.นิสสัคคิยกัณฑ์] 2.โกสิยวรรค 3.เทฺวภาคสิกขาบท สิกขาบทวิภังค์
พระบัญญัติ
[553] ก็ ภิกษุผู้ใช้ให้ทำสันถัตใหม่ พึงเอาขนเจียมดำล้วน 2 ส่วน ขน
เจียมขาวเป็นส่วนที่ 3 ขนเจียมแดงเป็นส่วนที่ 4 ถ้าเธอไม่เอาขนเจียมดำล้วน
2 ส่วน ขนเจียมขาวเป็นส่วนที่ 3 ขนเจียมแดงเป็นส่วนที่ 4 แล้วให้ทำสันถัต
ใหม่ ต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์
เรื่องพระฉัพพัคคีย์ จบ
สิกขาบทวิภังค์
[554] ที่ชื่อว่า ใหม่ พระองค์ตรัสมุ่งเอาการกระทำ
ที่ชื่อว่า สันถัต ได้แก่ ผ้ารองนั่งที่หล่อ ไม่ใช่ทอ
คำว่า ผู้ใช้ให้ทำ คือ ผู้ทำเองหรือใช้ให้ทำ
คำว่า เอาขนเจียมดำล้วน 2 ส่วน ความว่า ชั่งแล้วเอาขนเจียมดำล้วน 2 ชั่ง
คำว่า ขนเจียมขาวเป็นส่วนที่ 3 คือ ขนเจียมขาว 1 ชั่ง
คำว่า ขนเจียมแดงเป็นส่วนที่ 4 คือ ขนเจียมแดง 1 ชั่ง
คำว่า ถ้าเธอไม่เอาขนเจียมดำล้วน 2 ส่วน ขนเจียมขาวเป็นส่วนที่ 3 ขน
เจียมแดงเป็นส่วนที่ 4 ความว่า ไม่เอาขนเจียมดำล้วน 2 ชั่ง ขนเจียมขาว 1 ชั่ง
ขนเจียมแดง 1 ชั่ง ทำเองหรือใช้ให้ทำสันถัตใหม่ ต้องอาบัติทุกกฏเพราะพยายาม
สันถัตเป็นนิสสัคคีย์เพราะได้มา คือเป็นของจำต้องสละแก่สงฆ์ แก่คณะหรือแก่บุคคล
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพึงสละสันถัตที่เป็นนิสสัคคีย์อย่างนี้
วิธีสละสันถัตที่เป็นนิสสัคคีย์
สละแก่สงฆ์
ภิกษุรูปนั้นพึงเข้าไปหาสงฆ์ ห่มอุตตราสงค์เฉวียงบ่าข้างหนึ่ง กราบเท้าภิกษุ
ผู้แก่พรรษา นั่งกระโหย่งประนมมือ กล่าวอย่างนี้ว่า ท่านผู้เจริญ สันถัตผืนนี้
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [4.นิสสัคคิยกัณฑ์] 2.โกสิยวรรค 3.เทฺวภาคสิกขาบท สิกขาบทวิภังค์
กระผมไม่ได้เอาขนเจียมดำล้วน 2 ชั่ง ขนเจียมขาว 1 ชั่ง ขนเจียมแดง 1 ชั่ง ใช้ให้
ทำ เป็นนิสสัคคีย์ กระผมสละสันถัตผืนนี้แก่สงฆ์ ครั้นสละแล้วพึงแสดงอาบัติ
ภิกษุผู้ฉลาดสามารถพึงรับอาบัติ พึงคืนสันถัตที่เธอสละให้ด้วยญัตติกรรมวาจา
ว่า ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สันถัตผืนนี้ของภิกษุชื่อนี้เป็นนิสสัคคีย์ เธอ
สละแก่สงฆ์ถ้าสงฆ์พร้อมกันแล้วก็พึงให้สันถัตผืนนี้แก่ภิกษุชื่อนี้
สละแก่คณะ
ภิกษุรูปนั้นพึงเข้าไปหาภิกษุหลายรูป ห่มอุตตราสงค์เฉวียงบ่าข้างหนึ่ง กราบ
เท้าภิกษุผู้แก่พรรษา นั่งกระโหย่งประนมมือ กล่าวอย่างนี้ว่า ท่านผู้เจริญ สันถัต
ผืนนี้กระผมไม่ได้เอาขนเจียมดำล้วน 2 ชั่ง ขนเจียมขาว 1 ชั่ง ขนเจียมแดง 1 ชั่ง
ใช้ให้ทำ เป็นนิสสัคคีย์ กระผมสละสันถัตผืนนี้แก่ท่านทั้งหลาย ครั้นสละแล้ว
พึงแสดงอาบัติ
ภิกษุผู้ฉลาดสามารถพึงรับอาบัติ พึงคืนสันถัตที่เธอสละให้ด้วยกล่าวว่า ท่าน
ทั้งหลายจงฟังข้าพเจ้า สันถัตผืนนี้ของภิกษุชื่อนี้เป็นนิสสัคคีย์ เธอสละแก่ท่าน
ทั้งหลาย ถ้าท่านทั้งหลายพร้อมกันแล้วก็พึงให้สันถัตผืนนี้แก่ภิกษุชื่อนี้
สละแก่บุคคล
ภิกษุรูปนั้นพึงเข้าไปหาภิกษุรูปหนึ่ง ห่มอุตตราสงค์เฉวียงบ่าข้างหนึ่ง นั่ง
กระโหย่งประนมมือ กล่าวว่า ท่านขอรับ สันถัตผืนนี้กระผมไม่ได้เอาขนเจียมดำ
ล้วน 2 ชั่ง ขนเจียมขาว 1 ชั่ง ขนเจียมแดง 1 ชั่ง ใช้ให้ทำ เป็นนิสสัคคีย์
กระผมสละสันถัตผืนนี้แก่ท่าน ครั้นสละแล้วพึงแสดงอาบัติ
ภิกษุผู้รับสละนั้นพึงรับอาบัติแล้วคืนสันถัตที่เธอสละให้ด้วยกล่าวว่า กระผม
คืนสันถัตผืนนี้ให้แก่ท่าน